สมัครสมาชิก | เข้าสู่ระบบ

Information

ข้อมูลเจ้าของร้าน

เสื้อผ้าแฟชั่น,ชุดนอนน่ารัก,ชุดนอนเซ็กซี่,ชุดชั้นในน่ารัก,ชุดชั้นในเซ็กซี่,คอร์เซ็ท,เท็ดดี้,บอดี้สูท,ซีทรู,ชุดว่ายน้ำ,บิกินี่,bikini,สไตล์เกาหลี,ชุดแฟนซี,ชุดคอสเพลย์,เชียร์ลีดเดอร์,กิโมโน,พริตตี้

จดทะเบียนพาณิชย์

 

Fanpage

 

หมวดสินค้าทั้งหมด

สินค้าลดราคา

แจ้งการชำระเงิน ของร้าน เสื้อผ้าแฟชั่น,ชุดนอนน่ารัก,ชุดนอนเซ็กซี่,ชุดชั้นในน่ารัก,ชุดชั้นในเซ็กซี่,คอร์เซ็ท,เท็ดดี้,บอดี้สูท,ซีทรู,ชุดว่ายน้ำ,บิกินี่,bikini,สไตล์เกาหลี,ชุดแฟนซี,ชุดคอสเพลย์,เชียร์ลีดเดอร์,กิโมโน,พริตตี้ ตรวจสอบพัสดุ ของร้าน เสื้อผ้าแฟชั่น,ชุดนอนน่ารัก,ชุดนอนเซ็กซี่,ชุดชั้นในน่ารัก,ชุดชั้นในเซ็กซี่,คอร์เซ็ท,เท็ดดี้,บอดี้สูท,ซีทรู,ชุดว่ายน้ำ,บิกินี่,bikini,สไตล์เกาหลี,ชุดแฟนซี,ชุดคอสเพลย์,เชียร์ลีดเดอร์,กิโมโน,พริตตี้ แจ้งปัญหาเกี่ยวกับระบบร้านค้า เสื้อผ้าแฟชั่น,ชุดนอนน่ารัก,ชุดนอนเซ็กซี่,ชุดชั้นในน่ารัก,ชุดชั้นในเซ็กซี่,คอร์เซ็ท,เท็ดดี้,บอดี้สูท,ซีทรู,ชุดว่ายน้ำ,บิกินี่,bikini,สไตล์เกาหลี,ชุดแฟนซี,ชุดคอสเพลย์,เชียร์ลีดเดอร์,กิโมโน,พริตตี้

บทความที่น่าสนใจ

ความเป็นมาชุดชั้นใน [เขียนเมื่อ : 2016-12-08]

 

ในสมัยโบราณ ภายใต้เสื้อคลุมตัวหลวมที่ชาวโรมันสวมใส่ ชุดชั้นในยังไม่ได้รับการยอมรับให้เป็นอาภรณ์มาตรฐานอีกชิ้นหนึ่งก่อนศตวรรษที่ 19  ชุดชั้นใน ถ้าสวมใส่ เป็นแบบที่เรียบง่ายมาก ประกอบด้วยเสื้อกับกางเกงในตัวหลวมยาวในบางกรณีชุดชั้นในได้รับการออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งของชุดเสื้อผ้าที่สวมใส่ในโอกาสเฉพาะ เนื่องจากไม่ได้มีจุดประสงค์ให้ชุดชั้นในปรากฏแก่สายดาบุคคลอื่นใดนอกเหนือจากผู้สวมใส่ดังนั้นชุดชั้นในที่กระชับ ดูดี จึงไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปให้ความสนใจเลย ยกเว้นแต่ในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นที่นิยมให้สตรีมีเอวคอดกิ่ว อกตั้ง เสื้อชั้นในแบบที่เรียกว่า เสื้อรัดลำตัวสตรีคอร์เซ็ทจึงถูกประดิษฐ์ขึ้นเพื่อทำหน้าที่ดังกล่าว

 

 

นักประวัติศาสตร์แฟชั่นบันทึกไว้ว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของชุดชั้นใน รวมถึงทัศนคติของผู้คนต่อชุดชั้นใน เกิดขึ้นในราวทศวรรษที่ 1830-1839 ชุดชั้นในเริ่มมีมากชิ้น ขึ้นยาวขึ้น และกลายเป็นอาภรณ์ที่ quot ต้องสวมใส่เป็นประจำทั้งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ถือว่า การไม่สวมชุดชั้นในแสดงถึงความสกปรก หยาบช้า ต่ำชั้น ละเลยมารยาทและศีลธรรมอันดีงาม การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เชื่อกันว่าเกิดจากปัจจัยร่วมสามประการ คือ หนึ่งความเฟื่องฟูของลัทธิเจ้า ระเบียบของสมัยวิกตอเรียน ค.ศ.1837-1901 และกฎเกณฑ์ในยุคนั้นที่กำหนดว่าการแต่งกายสุภาพต้องเป็นเช่นไร สองความสำเร็จในการคิดประดิษฐ์ผ้าที่มีเนื้อละเอียดขึ้นเบาขึ้น สามการค้นพบทางการแพทย์เกี่ยวกับสาเหตุของความเจ็บไข้ว่ามาจากเชื้อโรคเล็ก ๆ ในอากาศ ผนวกกับร่างกายที่หนาวเย็น              

 

 

ปัจจัยประการสุดท้ายนี้สำคัญมาก เพราะบรรดาแพทย์ต่างแนะนำให้ผู้คนปกป้องร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ ไม่ปล่อยให้ร่างกายหนาวสั่นสะท้านเป็นอันขาด ในเวลานั้นคำว่า “ หนาวสะท้าน ” ถูกเอ่ยถึงราวกับเป็นสิ่งที่มีตัวตนจับต้องได้คนทั่วไปเริ่มหวั่นเกรงที่จะเปิดเผยส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายยกเว้นใบหน้าให้สัมผัสกับอากาศ ซึ่งรายงานทางการแพทย์ยืนยันว่าเต็มไปด้วยเชื้อโรค ช่วงหลุยส์ ปาสเตอร์ ค.ศ.1822-1895 นักชีวเคมีชาวฝรั่งเศส เพิ่งพิสูจน์ทฤษฎีที่ว่าเชื้อโรคเป็นสาเหตุของการเกิดโรค ส่วนลอร์ด โจเซฟ ลิสเตอร์ ค.ศ.1827-1912 ก็กำลังรณรงค์ส่งเสริมการใช้ยาฆ่าเชื้อโรคในการผ่าตัด บรรยากาศดังที่กล่าวมานี้ล้วนสนับสนุนให้เกิดความต้องการชุดชั้นในอย่างกว้างขวาง

 

 

ในสมัยนั้นชุดชั้นในมีเพียงสีขาว มักลงแป้งจนแข็งระคายผิวและส่วนใหญ่ตัดเย็บจากผ้าลินิน ผ้าดิบ หรือผ้าสักหลาดอ่อนนับจากช่วงทศวรรษที่ 1861-1869 เป็นต้นมา ชุดชั้นในสตรีเริ่มให้ความสำคัญกับการออกแบบที่สวยงาม และอีกสองทศวรรษถัดมา ผ้าไหมได้กลายเป็นผ้าที่นิยมใช้ทำชุดชั้นในมากที่สุด “ ขบวนการผ้าขนสัตว์ ” ซึ่งเป็นกลุ่มริเริ่มชักชวนให้ใส่ชุดชั้นในผ้าขนสัตว์ เกิดขึ้นในประเทศอังกฤษภายใต้การนำของดอกเตอร์กุสตาฟ เยเกอร์ อดีตศาสตราจารย์ภาควิชาสรีรศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยสตุตการ์ต ดอกเตอร์เยเกอร์ได้โฆษณาชักชวนให้เห็นถึงคุณประโยชน์ของการใช้ผ้าขนสัตว์ที่มีเนื้อกระด้างแนบติดกับผิวหนังโดยอธิบายว่า เนื่องจากผ้าขนสัตว์มีรูพรุน จึงเปิดโอกาสให้ร่างกายของคนเราได้ “หายใจ”

 

ที่มา : http://www.wowbestsale.com/attachments/product/images_1-1811024.jpg

 

ดังนั้นผู้สวมใส่ผ้าขนสัตว์เป็นประจำจึงมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงปรากฏว่าผู้เข้าร่วมขบวนวัฒนธรรมการสวมผ้าขนสัตว์เพื่อสุขภาพล้วนเป็นผู้มีชื่อเสียงในวงสังคม เช่น ออสการ์ ไวลด์ และ จอร์จ เบอร์นาร์ด ชอว์ เป็นต้น ผลจากความคลื่อนไหวนี้ทำให้เสื้อ กางเกงชั้นใน เสื้อรัดลำตัวสตรี และกระโปรงชั้นในซึ่งตัดเย็บจากผ้าขนสัตว์ ได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งในทวีปยุโรปและอเมริกา  นับเป็นเวลากว่าสองศตวรรษ ค.ศ.1890-1901 ที่ขบวนการผ้าขนสัตว์สร้างความอึดอัด ระคายตัว ให้แก่ผู้สวมใส่ทั้งสองฟากฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ในปี ค.ศ.1910 ผู้ชายชาวอเมริกันได้มีโอกาสชื่นชมนวัตกรรมย่อย ๆ ของกางเกงในชาย นั่นคือ กางเกงในแบบใหม่ที่มีช่องเจาะด้านหน้า ช่วยเพิ่มความสะดวกเวลาเข้าห้องน้ำ ต่อมาในปี ค.ศ.1934 เกิดการปฏิวัติในรูปแบบของกางเกงในชายจากการเปิดตัวของ “จอร์กกี้”  ในรูปโฉมใหม่ โดยเลียนแบบมาจากชุดอาบน้ำชายซึ่งได้รับความนิยมมากในปีก่อนหน้านั้น ณ ชายหาดริเวียราของฝรั่งเศส กางเกงในจอร์กกี้รุ่นคลาสิก หมายเลข 1007 แนบกระชับเข้ารูปพร้อมขอบเอวยางได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่วงการชุดชั้นใน “ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ 108 ของคำถาม สำนักพิมพ์สารคดี”

 

ที่มา : http://guru.sanook.com/12963/

เสื้อผ้าแฟชั่น,ชุดนอนน่ารัก,ชุดนอนเซ็กซี่,ชุดชั้นในน่ารัก,ชุดชั้นในเซ็กซี่,คอร์เซ็ท,เท็ดดี้,บอดี้สูท,ซีทรู,ชุดว่ายน้ำ,บิกินี่,bikini,สไตล์เกาหลี,ชุดแฟนซี,ชุดคอสเพลย์,เชียร์ลีดเดอร์,กิโมโน,พริตตี้
สมัครสมาชิก | เข้าสู่ระบบ